| ||||
ในช่วงหนึ่งของวัฒนธรรมจีน ได้เคยมีการเคารพบูชาเชือก เนื่องด้วยคำว่า “เสิง” (绳 แปลว่า “เชือก”) อ่านออกเสียงคล้ายคำว่า “เสิน” (神 แปลว่า เทพเจ้า, เทวดา) อีกทั้งตามตำนานกำเนิดมนุษยชาติฉบับจีนยังมีการกล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า “หนี่ว์วา เทพมารดรแห่งมนุษยชาติ ได้ดึงเชือกขึ้นมาจากดินโคลนแล้วสะบัด เศษโคลนตกลงพื้นกลายเป็นมนุษย์” ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากเชือกนั้นแลดูคล้ายกับมังกรที่โค้งงอ ดังนั้นช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์จีน ได้มีการนำเชือกมาถักทอให้เป็นรูปสมมติของเทพเจ้ามังกร ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าเป็นบรรพบุรุษของพวกตน จึงทำให้เชือกกลายเป็นตัวแทนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความมีสิริมงคล นอกจากนี้สมัยอดีตกาลเชือกยังมีอีกบทบาทที่สำคัญยิ่ง ในบันทึกของเจิ้งเสวียนสมัยฮั่นตะวันออกได้ระบุไว้ว่ามีการใช้เงื่อนเชือกเป็นตัวแทนของคำมั่นสัญญา หากเป็นคำมั่นสัญญาในเรื่องใหญ่และสำคัญจะขมวดปมให้ใหญ่ หากเป็นเรื่องเล็ก ก็ขมวดเป็นปมเล็ก ดังนั้นเงื่อนจึงกลายเป็นสิ่งที่ชาวจีนเคารพยกย่องนับแต่นั้นมา | ||||
เงื่อนมงคลนั้นมีหลายแบบ แต่ละแบบมีชื่อเรียกตามลักษณะของเงื่อน และแต่ละอันก็มีนัยยะอันมงคลแฝงอยู่ทั้งสิ้น ดังเช่น “เงื่อนผานฉาง” (盘长结 – เงื่อนขมวดยาว) เรามักเห็นเงื่อนประเภทนี้ในงานมงคลสมรส เนื่องจากหมายถึงให้บ่าวสาวรักใคร่กลมเกลียว ไม่แยกจากกันชั่วนิรันดร หรือจะแขวนหยกไว้กับเงื่อนหรูอี้ (如意 – เงื่อนสมปรารถนา) ให้ผู้ที่พกพาคิดสิ่งใดสมความปรารถนา แขวนเงื่อนฝ่าหลุน (法轮结 - เงื่อนธรรมจักร) ไว้ที่ด้ามกระบี่ หมายถึง การเวียนธรรมจักรในใจ กล่าวคือ การละทิ้งความชั่ว เผยแผ่ความดีงามนั่นเอง | ||||
นอกจากนี้ ชาวจีนเพื่อแสดงออกถึงความรัก ก็มักใช้สิ่งที่มีความหมายแฝงเพื่อบ่งบอกความในใจ ดังนั้น “เงื่อน” ซึ่งแฝงนัยถึงความรักที่มั่นคงยืนยาว ไม่มีวันเสื่อมคลายจึงได้กลายเป็นของแทนใจระหว่างหนุ่มสาวด้วย | ||||
เรียบเรียงโดย สุกัญญา แจ่มศุภพันธ์ ที่มา http://mgr.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000044962 |
ถอดรหัสมงคล “เงื่อนมังกร”
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น